สมาธิเพื่อชีวิต
โดย หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
วัดป่าสาลวัน
ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นคำสอนของปัญญาชน
ไม่ใช่เป็นคำสอนของบุคคลผู้เชื่อในสิ่งที่ไม่มีเหตุผลด้วยความงมงาย
ศาสนาพุทธสอนให้คนเรียนให้รู้ธรรมชาติและกฎของธรรมชาติ
ถ้าใครจะถามว่าธรรมะคืออะไร ? ธรรมะ ก็คือ ธรรมชาติ
ธรรมชาติคืออะไร ? ก็คือ กายกับใจของเรา
ขณะนี้นักเรียนทั้งหลายกำลังเรียน ปัญหาสำคัญอยู่ตรงที่ว่า
ทำอย่างไรเราจึงจะได้พลังของสมาธิ พลังของสติเพื่อสนับสนุนการศึกษา
หลวงตาจะสอนวิธีทำสมาธิในห้องเรียน สมมุติว่าขณะนี้หลวงตาเป็น
ครูสอนพวกเธอทั้งหลาย ให้พวกเธอทั้งหลายเพ่งสายตามาที่หลวงตา
ส่งใจมาที่หลวงตาแล้วก็สังเกตดูให้ดีว่าหลวงตาทำอะไรบ้าง
หลวงตายกมือหนูก็รู้ เขียนหนังสือให้หนูรู้ พูดอะไรให้หนูตั้งใจฟัง
ถ้าสังเกตจนกระทั่งกระพริบหูกระพริบตาได้ยิ่งดี เวลาเข้าห้องเรียนให้
เพ่งสายตาไปที่ตัวครู ส่งใจไปที่ตัวครู อย่าเอาใจไปอื่น เพียงแค่นี้
วิธีการทำสมาธิในห้องเรียน ถ้าพวกหนูๆ จำเอาไปแล้วปฏิบัติตาม
จะได้สมาธิตั้งแต่เป็นนักเรียนเล็กๆ ชั้นอนุบาล
ในตอนแรกนี่ การควบคุมสายตาและจิตไปไว้ที่ตัวครู
นี่อาจจะลำบากหน่อย แต่ต้องพยายามฝึก ฝึกจนคล่องตัวชำนิชำนาญ
ภายหลังแม้เราจะไม่ตั้งใจ พอเห็นใครเดินผ่านหน้ามันจะจ้องเอาๆ
พอมาเข้าห้องเรียนแล้วพอครูเดินเข้ามาในห้อง
สายตามันจะจ้องปั๊บ ใจมันก็จะจดจ่ออยู่ตรงนั้น หนูลองคิดดูซิว่า
การที่มองที่ครู และเอาใจใส่ตัวครูนี่ เราเรียนหนังสือเราจะเข้าใจดีไหม
ลองคิดดู ทีนี้เมื่อฝึกจนคล่องตัวชำนิชำนาญแล้ว สายตามันยังจ้องอยู่ที่ตัวครู
แต่ใจจะมาอยู่ที่ตัวเราเอง มาตอนนี้ครูท่านสอนอะไร
พอท่านพูดจบประโยคนั้น ใจของเรารู้ล่วงหน้าแล้วว่าต่อไปท่านพูดอะไร
เวลาไปสอบ อ่านคำถามจบ ใจของเราจะวูบวาบแล้วคำตอบมันจะผุดขึ้น
อันนี้เป็นสูตรทำสมาธิที่หลวงพ่อทำได้ผลมาแล้ว
, หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
From: http://www.dhammajak.net/smati/12.html
โดย หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
วัดป่าสาลวัน
ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นคำสอนของปัญญาชน
ไม่ใช่เป็นคำสอนของบุคคลผู้เชื่อในสิ่งที่ไม่มีเหตุผลด้วยความงมงาย
ศาสนาพุทธสอนให้คนเรียนให้รู้ธรรมชาติและกฎของธรรมชาติ
ถ้าใครจะถามว่าธรรมะคืออะไร ? ธรรมะ ก็คือ ธรรมชาติ
ธรรมชาติคืออะไร ? ก็คือ กายกับใจของเรา
ขณะนี้นักเรียนทั้งหลายกำลังเรียน ปัญหาสำคัญอยู่ตรงที่ว่า
ทำอย่างไรเราจึงจะได้พลังของสมาธิ พลังของสติเพื่อสนับสนุนการศึกษา
หลวงตาจะสอนวิธีทำสมาธิในห้องเรียน สมมุติว่าขณะนี้หลวงตาเป็น
ครูสอนพวกเธอทั้งหลาย ให้พวกเธอทั้งหลายเพ่งสายตามาที่หลวงตา
ส่งใจมาที่หลวงตาแล้วก็สังเกตดูให้ดีว่าหลวงตาทำอะไรบ้าง
หลวงตายกมือหนูก็รู้ เขียนหนังสือให้หนูรู้ พูดอะไรให้หนูตั้งใจฟัง
ถ้าสังเกตจนกระทั่งกระพริบหูกระพริบตาได้ยิ่งดี เวลาเข้าห้องเรียนให้
เพ่งสายตาไปที่ตัวครู ส่งใจไปที่ตัวครู อย่าเอาใจไปอื่น เพียงแค่นี้
วิธีการทำสมาธิในห้องเรียน ถ้าพวกหนูๆ จำเอาไปแล้วปฏิบัติตาม
จะได้สมาธิตั้งแต่เป็นนักเรียนเล็กๆ ชั้นอนุบาล
ในตอนแรกนี่ การควบคุมสายตาและจิตไปไว้ที่ตัวครู
นี่อาจจะลำบากหน่อย แต่ต้องพยายามฝึก ฝึกจนคล่องตัวชำนิชำนาญ
ภายหลังแม้เราจะไม่ตั้งใจ พอเห็นใครเดินผ่านหน้ามันจะจ้องเอาๆ
พอมาเข้าห้องเรียนแล้วพอครูเดินเข้ามาในห้อง
สายตามันจะจ้องปั๊บ ใจมันก็จะจดจ่ออยู่ตรงนั้น หนูลองคิดดูซิว่า
การที่มองที่ครู และเอาใจใส่ตัวครูนี่ เราเรียนหนังสือเราจะเข้าใจดีไหม
ลองคิดดู ทีนี้เมื่อฝึกจนคล่องตัวชำนิชำนาญแล้ว สายตามันยังจ้องอยู่ที่ตัวครู
แต่ใจจะมาอยู่ที่ตัวเราเอง มาตอนนี้ครูท่านสอนอะไร
พอท่านพูดจบประโยคนั้น ใจของเรารู้ล่วงหน้าแล้วว่าต่อไปท่านพูดอะไร
เวลาไปสอบ อ่านคำถามจบ ใจของเราจะวูบวาบแล้วคำตอบมันจะผุดขึ้น
อันนี้เป็นสูตรทำสมาธิที่หลวงพ่อทำได้ผลมาแล้ว
, หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
From: http://www.dhammajak.net/smati/12.html